โษณาต่อต้านคอรัปชั่น

วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

ศาสนาอิสลาม


  
 
เหตุการณ์ที่น่าหวั่นใจ ที่เราทั้งหลายแหล่นั้นต่างกลัวว่ามันจะกลับมานั้นในที่สุดก็ได้เกิดขึ้นจนได้
 

 
     เหตุการณ์การปะทะกันระหว่างมุสลิมกับคริสต์เตียนนั้นมีมานานตั้งแต่สมัยสงครามอันเรื่องชื่อ อย่างสงครามครูเสด และกินเวลายาวมา ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้การปะทะระหว่างสองฝ่ายนั้นจะไม่ค้อยมีให้เห็นแล้วก็ตามแต่ความขัดแย้งกันระหว่างสองฝ่ายนั้นยังคงมีอยู่และสืบเนื่องกันมาอย่างไม่ ลด ลา วา ศอก กันเลยทีเดียวเปรียบเสมือนกองไม้แห้งที่พร้อมติดไฟได้ตลอดเวลา
     เหตุการณ์ที่เราได้อ่านในหน้าหนังสือพิมพ์นั้นเป็นเหมือนตัวบอกข่าวว่าสิ่งที่เราวิตกใจนั้นมันจะกลับมาอีกแล้ว ซึ่งล่าสุดก็คือการเผาโบสถ์โบสถ์ของศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์ แถบชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ ท่ามกลางความขัดแย้งเพิ่มขึ้นในมาเลเซีย เกี่ยวกับการใช้คำว่า "อัลเลาะห์" โดยคนที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมในประเทศ



     การเผาโบสถ์ในมาเลย์นั้นสืบเนื่องสาเหตุมาจากที่ว่าหลังจากศาลสูงกัวลาลัมเปอร์มีคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมใช้คำ ว่า "อัลเลาะห์" ในวรรณกรรมของพวกเขา ซึ่งรัฐบาลมาเลเซียได้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งดังกล่าว เพื่อให้งานตีพิมพ์ของชาวคาทอลิกสามารถใช้คำธรรมดาสำหรับพระเจ้าได้ในภาษามา เลย์ และศาลสูงได้สั่งระงับการมีผลบังคับตามคำสั่งไว้ชั่วคราว เพื่อรอผลการพิจารณาคำร้องคัดค้าน
     โดยมุสลิมชาวมาเลย์นั้นในเหตุผลหนึ่งที่หน้าสนใจว่า คำว่า "อัลเลาะห์" เป็นของศาสนาอิสลามเท่านั้น และหากชาวคริสต์เตียนนำไปใช้จะทำให้ชาวมุสลิมสับสน และเป็นการล่อใจให้หันไปนับถือศาสนาคริสต์
     เริ่มต้นเดิมทีแล้วมุสลิมกับคริสต์เตียนนั้นก็มีจุดที่มาจากจุดเดียวกันแต่ต่างกันที่ตรงความเชื่อ หากถามว่าคริสต์นั้นเชื่อในพระเจ้าไหมตอบได้เลยว่าเขาเชื่อแต่ความเชื่อที่เขาผิดอยู่อย่างหนึ่งคือการเชื่อว่าศาสดาอีซานั้น คือบุตรของพระเจ้า ซึ่งความจริงนั้นเป็นแค่ศาสดาของพระเจ้าเท่านั้น
     การที่ชาวคริสต์จะเรียกชื่อพระนามของอัลลอฮฺหรือเขียนชื่อพระนามของอัลลอฮฺได้หรือไม่นั้นเราเองก็มิสามารถตอบเองได้เป็นเรื่องระหว่าง เขากับพระเจ้า และการที่เราไปเผาโบสถ์หรือศาสนสถานของศาสนาอื่นนั้นเป็นเรื่องถูกหรือผิดให้เราไปคิดเอง เพราะอย่างในกรณีสงคราม กฎที่ท่านนบีบอกไว้เมื่อได้ที่เข้ายึดเมืองคือ ห้ามฆ่าเด็ก สตรี คนชรา ผู้ที่ยอมจำนน นักบวช ปศุสัตว์ ห้ามทำลายพืชผลต้นไม้ ห้ามทำลายอาคารปลูกสร้าง ห้ามทำลายศาสนสถานของศาสนิกอื่น



มัสยิด อะยาโตเฟีย หรืออดีตโบสถ์ เซ็นต์โซเฟียครั้งกองทัพมุสลิมบุกยึดได้นั้นก็ไม่ทำลายทิ้งเพียงแต่งหักกางเขนทิ้งและเปลี่ยนเป็นมัสยิดแทน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น